หลังคาของบ้านน็อคดาวน์ควรเลือกใช้แบบใด เพื่อให้อยู่สบาย ไม่ร้อน ไม่เปลืองไฟ
หนึ่งในความสำคัญของบ้านน็อคดาวน์ คือ วัสดุหลังคาที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันทั้งแดด, ฝน และลมพายุที่ดีที่สุด แม้ว่าบ้านน็อคดาวน์จะดูเป็นบ้านสำเร็จที่อาจจะแข็งแรงน้อยกว่าบ้านคอนกรีตทั่วไป แต่วัสดุที่ใช้จะต้องมีคุณภาพ จึงจะทำให้การใช้งานมีความแข็งแรงทนทานและยาวนาน หลังคาเองก็เช่นกันที่จะต้องเลือกเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงมากที่สุด เพื่อทำให้การอยู่อาศัยมีความปลอดภัยและให้การใช้งานที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด
เลือกหลังคาบ้านน็อกดาวน์อย่างไรให้อยู่สบาย ไม่ร้อน ไม่ทำให้เปลืองไฟมากขึ้น
สำหรับบ้านน็อคดาวน์แล้ว ทุก ๆ ส่วนถือว่ามีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด แต่สำหรับหลังคาบ้านจะสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นส่วนที่จะช่วยป้องกันทั้งแดด ฝน และลมอย่างครบถ้วน ดังนั้นควรต้องเลือกวัสดุทำหลังคาบ้านที่มีความเหมาะสม น้ำหนักต้องไม่มาก แต่ให้การป้องกันในเรื่องต่าง ๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังต้องทนทานต่อไฟ เพื่อไม่ให้ติดไฟง่ายจนเกินไป โดยวัสดุที่เลือกใช้เป็นหลังคาบ้านน็อคดาวน์จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ
1.หลังคาเมทัลชีท
หลังคาแบบเมทัลชีทถือว่าได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มของบ้านน็อคดาวน์ดีไซน์โมเดิร์น เพราะนอกจากจะให้รูปแบบที่มีความทันสมัยแล้ว ค่าใช้จ่ายยังถือว่าถูกอีกด้วย โดยเมทัลชีทนั้นจะเป็นแผ่นโลหะที่มีการทำลอนในตัว หรืออาจจะเป็นแบบแผ่นเรียบไปทั้งหมด ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถเลือกได้ตามแบบที่ต้องการ มาในรูปแบบของเหล็กที่จะเชื่อมแก๊สติดกับโครงสร้างหลังคา การติดตั้งเป็นได้ทั้งทรงแบนเรียบแบบบ้านโมเดิร์น หรือจะเป็นทรงหลังคาตามปกติที่มีจั่วก็ได้เช่นกัน ขั้นตอนการผลิตเมทัลชีทจะค่อนข้างเรียบง่าย เพราะเป็นเพียงแค่การรีดขึ้นรูป ให้การติดตั้งที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก
ปัจจุบันเมทัลชีทถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติแข็งแกร่งและทนทานสูง ทนต่อการกัดกร่อนของความเป็นกรด-ด่างจากสภาพอากาศต่าง ๆ พร้อมให้ความเหนียวและน้ำหนักเบา ทั้งยังสามารถตัดขึ้นรูปหรือดัดโค้งได้ง่าย มีหลายสี หลายรูปแบบให้เลือก จึงถูกนำไปใช้งานอย่างหลากหลายภายในที่อยู่อาศัย, โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ “บ้านน็อคดาวน์” เพราะคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา จึงจะไม่เพิ่มภาระให้กับโครงสร้างของตัวบ้านมากเกินไป ทั้งยังสามารถติดตั้งฉนวนกันความร้อนไว้ภายในได้ ดังนั้นเมื่อติดตั้งเป็นหลังคาบ้านน็อคดาวน์แล้ว จึงลดความร้อนได้ดีและช่วยทำให้ประหยัดไฟได้มากขึ้น
สำหรับแผ่นเมทัลชีทที่ถูกใช้งานกับบ้านน็อคดาวน์ จะเน้นเป็นแผ่นเหล็กแบบรีดเย็นที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ได้ความเหนียวและความทนทาน ที่สำคัญคือขั้นตอนการผลิตจะต้องผ่านมาตรฐานสากลมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ต้องมีการเคลือบทั้งอลูมิเนียมและสังกะสี รวมไปถึงเคลือบอลูซิงค์เพื่อกันสนิมและไม่ทำให้ผุกร่อนเร็วจนเกินไป สำหรับความหนาของแผ่นเมทัลชีทที่จะนำมาใช้เป็นหลังคาบ้านน็อคดาวน์ จะมีให้เลือกตั้งแต่ 0.25 มิลลิเมตร, 0.28 มิลลิเมตร, 0.33 มิลลิเมตร ไปจนถึง 0.5 มิลลิเมตร นอกจากนี้เจ้าของบ้านควรดูความหนาของชั้นเคลือบอลูซิงค์เพิ่มเติมด้วย ถ้าต้องการเคลือบแบบหนาเพื่อทำให้การใช้งานยาวนานขึ้น ควรเลือกที่ระดับ AZ150
2.หลังคา Shingles Roof
สำหรับหลังคาแบบ Shingles Roof เป็นการใช้วัสดุสังเคราะห์รูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีร่วมในการผลิต เป็นหลังคาที่มีไฟเบอร์กลาสเสริมแรงอยู่ด้านใน จึงทำให้ทนทานต่อแรงดึงสูง มีความเหนียว และสามารถป้องกันรังสี UV ได้อีกด้วย การติดตั้งค่อนข้างง่าย พร้อมการดัดขึ้นรูปหรือการปรับเปลี่ยนจะมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยการใช้งานของแผ่น Shingles Roof ที่มีคุณภาพจะอยู่ได้ยาวนานถึง 50 ปี สำหรับงานบ้านทั่วไปมักจะเรียก Shingles Roof ว่าแผ่นหลังคายางมะตอย เพราะจะมีส่วนผสมของยางมะตอยอยู่ภายในแผ่นหลังคาประเภทนี้ จึงมีความเหนียวและความหนึบพอสมควร
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาให้เป็น Asphalt Shingles Roof ที่สามารถป้องกันไฟได้ดี จึงไม่ติดไฟง่ายจนเกินไป ถูกใช้มากในบ้านน็อคดาวน์, รีสอร์ท, บ้านพักแบบโฮมสเตย์ และบ้านตากอากาศทั่วไป เพราะนอกจากจะให้ความสวยที่เหมือนหลังคาแบบเซรามิกจริงแล้ว ยังให้ความแข็งแรงทนทานและราคาถูก การติดตั้งก็ยังถือว่าง่ายและไม่ทำให้เกิดการรั่วซึมอีกด้วย ซึ่งการติดตั้งหลังคา Shingles Roof ภายในบ้านน็อคดาวน์แบบบ้านทั่วไปด้านในของหลังคาจะมีการติดตั้งแผ่นฉนวนกันความร้อนร่วมด้วย จึงช่วยลดความร้อนได้ดีและไม่ทำให้เปลืองไฟบ้านอย่างแน่นอน
การเลือกหลังคาบ้านน็อคดาวน์ในปัจจุบันจะนิยมใช้หลังคาทั้ง 2 รูปแบบนี้ เพราะนอกจากจะราคาไม่แพง ยังให้การใช้งานที่ดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพต่อการป้องกันทั้งความร้อน ลมฝน และสภาพอากาศต่าง ๆ จึงทำให้คุณมั่นใจต่อการอยู่อาศัยภายในบ้านน็อคดาวน์ที่จะมีอายุยาวนานหลายสิบปีเลยทีเดียว
